รายงานคอนเนตทิคัตแสดงให้เห็นว่าชาวบ้านพอใจกับตัวเลือกการ
การศึกษาที่ครอบคลุมดำเนินการโดยกรมสุขภาพจิตและการบริการเสพ ติดคอนเนตทิคัต เผยให้เห็นถึงความพึงพอใจในระดับที่ค่อนข้างสูงในกลุ่มผู้อยู่อาศัยคอนเนตทิคัตกับตัวเลือกการพนันของรัฐ
การศึกษา “ผลกระทบของการพนันที่ถูกกฎหมายในคอนเนตทิคัต” จัดทำโดย Gemini Research และได้รับทุนจากการลงทุน 1.2 ล้านดอลลาร์นำเสนอภาพเชิงลึกเกี่ยวกับผลกระทบของการพนันที่ถูกต้องตามกฎหมาย รวมถึงการเดิมพันกีฬาและการเล่นคาสิโนออนไลน์ซึ่งถูกกฎหมายในคอนเนตทิคัตในปี 2021
จากการค้นพบการวิจัย
ผู้อยู่อาศัยในสองสามพอใจกับสิ่งอำนวยความสะดวกการพนันในคอนเนตทิคัตที่มีอยู่ ซึ่งบ่งชี้ว่ามีการต้อนรับในเชิงบวกต่อภูมิทัศน์การพนันความพึงพอใจนี้ขยายไปถึงความพยายามของรัฐในการดูแลนักพนันที่มีปัญหา โดยไม่มีจำนวนมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญหลังจากการพนันกีฬาและการเล่นเกมคาสิโนออนไลน์
“ไม่มีอะไรที่อยู่ในรายงานนี้ที่ผู้คนไม่ควรจะรู้อยู่แล้ว” แคธี ออสเทน, D-Sprague ผู้สนับสนุนการขยายการพนันกล่าวกับ The Day
การศึกษาซึ่งสำรวจผู้คนมากกว่า 5,000 คนพบว่า 62.6 เปอร์เซ็นต์มีส่วนร่วมในการพนันสันทนาการในช่วงปีที่ผ่านมาในขณะเดียวกัน 4.9 เปอร์เซ็นต์ถูกระบุว่า “เสี่ยง” ที่จะกลายเป็นนักพนันที่มีปัญหา และ 1.8 เปอร์เซ็นต์ถูกจัดเป็นนักเสี่ยงโชคที่มีปัญหาอัตราการพนันปัญหานี้ใส่คล้องกับผลการพิจัยจากการศึกษาในปี 2009 และแสดงถึงการลดลงจากอัตราที่พิจารณาในปี 1996 และ 1991
การศึกษายังใช้ข้อมูลตำแหน่งโทรศัพท์มือถือเพื่อวิเคราะห์แหล่งรายได้ของคาสิโน โดยพบว่า 50.5 เปอร์เซ็นต์
รายได้ที่คาสิโนชนเผ่าทางตะวันออกเฉียงใต้ของคอนเนตทิคัต Foxwoods และ Mohegan Sun มาจากผู้อยู่อาศัยของรัฐการศึกษาทำให้เห็นว่าการเกิดขึ้นของคาสิโนแมสซาชูเซตส์ตั้งแต่ปี 2015 ส่งผลน้อยที่สุดต่อรายได้ของคาสิโนคอนเนตทิคัต
เกี่ยวกับแนวทางของรัฐในการพนันปัญหาการศึกษากล่าวว่า “โดยทั่วไปอาจกล่าวได้ว่าการรักษาปัญหาและการป้องกันการพนันในคอนเนตทิคัตนั้นค่อนข้างเชิงรุกและเป็นแบบจำลองที่ดีสำหรับส่วนที่เหลือของประเทศ” เน้นว่าทรัพยากรการรักษาที่มีอยู่นั้นเพียงแต่พอที่จะตอบตอบสนองความต้องการมากกว่า
ยิ่งกว่านั้นการศึกษาจะตรวจสอบความชมรมระหว่างการพนันและประเด็นทางสังคมต่างๆมันสังเกตว่าอัตราการล้มละลายความรุนแรงในครอบครัวอัตราการหย่าร้างและอัตราการล่วงละเมิดเด็กในคอนเนตทิคัตในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งขัดแย้งกับแนวโน้มที่พบในการศึกษาผลกระทบการพนันในปี 2009